ซื้อบ้าน ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

1.ค่าจองและทำสัญญา (ค่ามัดจำ)

ค่าจอง อาจเรียกง่ายๆ ว่า “เงินจอง” เป็นเงินที่เราจะต้องนำไปให้กับผู้ขายเพื่อเป็นการรับประกันว่าเราต้องการซื้อบ้านนี้จริงๆ ไม่ว่าจะการจองตั้งแต่ก่อนก่อสร้างหรือภายหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ

หลังจากวางเงินจองแล้ว คุณจะต้องทำสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งระบุรายละเอียดและค่าใช้จ่ายต่างๆ ว่าใครคือผู้รับผิดชอบ จำนวนเท่าไหร่ คุณควรอ่านและศึกษารายละเอียดของสัญญาก่อนลงนาม โดยสัญญาจะซื้อจะขายต้องมีคู่ฉบับให้ผู้ซื้อ – ผู้ขายลงนาม และถือไว้เป็นหลักฐานคนละฉบับ

2.เงินดาวน์

ผู้ซื้อต้องจ่ายให้กับโครงการเมื่อจองบ้านหลังที่กำลังก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100 % โดยขึ้นอยู่กับการตกลงกับผู้ขายว่าผู้ซื้อต้องผ่อนดาวน์งวดละเท่าไหร่

3.ค่าโอนกรรมสิทธิ์

ค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์นั้นจะจ่ายให้กับกรมที่ดิน โดยกรมที่ดินคิดค่าจดทะเบียนสิทธิ 2% จากราคาประเมิน และสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ผู้ซื้อกับผู้ขายจะแบ่งกันรับผิดชอบฝ่ายละ 1%

4.ค่าจดจำนอง

ค่าจดจำนองจะจ่ายให้กับกรมที่ดินเช่นกัน ซึ่งคิดเป็น 1% ของวงเงินจำนอง หรือราว 1% ของยอดกู้  เช่น ได้วงเงินกู้ 1,000,000 บาท ต้องเตรียมเงินจำนองจำนวน 10,000 บาท (กรณีที่ผู้ซื้อขอสินเชื่อกับธนาคาร หากซื้อสดจะไม่เสียค่าจดจำนอง)

5.ค่าเบี้ยประกันภัยบ้าน

เมื่อขอสินเชื่อบ้านแล้ว ก็จะต้องทำประกันวินาศภัยหรืออัคคีภัยตามกฎหมาย ซึ่งเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับมุูลค่าบ้าน บ้านราคาสูง ค่าเบี้ยประกันสูงกว่าบ้านราคาต่ำจะอยู่ในช่วง 1,000 บาทขึ้นไป ต่อปี (สำหรับบางธนาคารอาจเรียกเก็บพร้อมค่าผ่อนรายเดือน)

6.ค่ามิเตอร์น้ำ-ไฟฟ้า

สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ จะแตกต่างกันไปตามบ้านแต่ละประเภทโดยขึ้นอยู่กับมาตรวัด ขนาดมิเตอร์ และจำนวนกระแสน้ำ-ไฟที่ปล่อยได้ อาจมีได้ทั้งค่าติดตั้งมิเตอร์ ค่าประกันมิเตอร์ และค่าประกันการใช้น้ำ-ไฟฟ้า เมื่อรวมกันทั้งหมดจะอยู่ในช่วงหลักพัน

7.ค่าส่วนกลาง

บ้านจัดสรรของโครงการ จะมีค่าส่วนกลางสำหรับบริหาร ปรับปรุง และพัฒนาโครงการ เช่น ค่าระบบรักษาความปลอดภัย ค่าบำรุงรักษาสินทรัพย์ในโครงการ ค่าใช้บริการสินทรัพย์หรือสถานที่ส่วนกลาง เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนกลางจะขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ โดยเก็บตามขนาดเนื้อที่ดินของบ้าน

 

Compare listings

เปรียบเทียบ